ผู้ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
ในฐานะบุคคลธรรมดาไม่ควรกระทําในสิงต่อไปนี้ เพราะอาจจะทําให้ “เกิดการกระทําความผิด" ตาม พรบ.นี้
1. ไม่ควรบอก password แก่ผู้อืน
2. อย่าให้ผู้อืนยืมใช้เครืองคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลือนที่เพือเข้าเน็ต
3.อย่าติดตังระบบเครือข่ายไร้สายในบ้านหรือทีทํางานโดยไม่ใช้มาตรการการตรวจสอบผู้ใช้งานและการเข้ารหัสลับ
4.อย่าเข้าสู่ระบบด้วยuser ID และ passwordทีไม่ใช่ของท่านเอง
5.อย่านํา user ID และ password ของผู้อืนไปใช้งานหรือเผยแพร่
6.อย่าส่งต่อซึงภาพหรือข้อความหรือภาพเคลือนไหวทีผิดกฎหมาย
7.อย่า กด "remember me"หรือ "remember password"ทีเครืองคอมพิวเตอร์สาธารณะและอย่า log-in เพือทําธุรกรรมทางการเงินทีเครืองสาธารณะ
8.อย่าใช้ WiFi (Wireless LAN)ทีเปิดให้ใช้ฟรีโดยปราศจากการเข้ารหัสลับข้อมูล
เพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงได้มี พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2550 ซึ่งเราที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงานควรที่จะได้ศึกษา ทำความเข้าใจ เพื่อมิให้เกิดการพลาดพลั้งกระทำความผิด ซึ่งหากมีการพลาดพลั้งไปไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ แล้วจะมาอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ และผลของการกระทำท่านอาจจะต้องรับโทษถึงจำคุกได้
1) เจ้าของไม่ให้เข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเขา แล้วเราแอบเข้าไป จำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ
2) ไปรู้วิธีการเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นแล้วไปยังไปบอกให้คนอื่นรู้ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ
3)แอบไปเจาะข้อมูลของผู้อืนทีเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์จําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่น หรือทังจําทังปรับ
4) ไปดักจับข้อมูลของคนอืน (เป็นข้อมูลส่วนตัวมิใช่มีไว้เพื่อสาธารณะ) จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ
5) แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่น จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
6) ส่ง packet หรือ message หรือ virus หรือ trojan หรือ worm หรืออะไรต่างๆ เข้าไปก่อกวนจนระบบของคนอื่นจนเสียหาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
7) ส่งข้อมูลหรืออีเมล์ ให้ผู้อืนซ้าๆ โดยผู้รับไม่ได้ร้องขอ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
8) ถ้าเราทำผิดข้อ 5) กับ ข้อ 6) แล้วมันสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงปลอดภัยประเทศ สูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก จําคุกตังแต่ 3-5 ปี และปรับตังแต่ 6 หมื่น - 3 แสน และถ้าทําให้ใครตายก็จะเพิมโทษเป็น จําคุกตังแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี
9) ถ้าเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์เพือทําให้ทําความผิดในหลายข้อข้างต้น จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ
10) สร้างภาพโป๊ เรื่องเท็จ ทําการปลอมแปลง กระทําการใดๆที่กระทบความมั่นคง ก่อการร้าย และส่งต่อข้อมูลทั้งๆทีรู้ว่าผิดตามทีกล่าวมาข้างต้น จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
10) สร้างภาพโป๊ เรื่องเท็จ ทําการปลอมแปลง กระทําการใดๆที่กระทบความมั่นคง ก่อการร้าย และส่งต่อข้อมูลทั้งๆทีรู้ว่าผิดตามทีกล่าวมาข้างต้น จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
11) เจ้าของเว็บ แล้วยอมให้คนอื่นทำตามข้อ 10) จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ
12) เอารูปผู้อื่นมาตัดต่อแล้วเอาไปเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ
พระราชบัญญัตินี้ จะมีผลกระทบกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปเพราะหากท่านทําให้เกิดการกระทําความผิดทางคอมพิวเตอร์ (ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตังใจ) ก็อาจจะมีผลกับท่าน และที่สําคัญ คือผู้ให้บริการซึ่งรวมไปถึงหน่วยงานต่างๆทีเปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้อื่นหรือกลุ่มพนักงาน นิสิต นักศึกษาในองค์กรผู้รับผิดชอบมีหน้าที่ดูแลอย่างรอบคอบในฐานะ "ผู้ให้บริการ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น